ผ่อนคอนโดเดือนละเท่าไหร่พร้อมตารางคำนวณตามเงินเดือนและเงินที่ต้องเตรียม
15 Aug 2022เพราะคอนโดมิเนียมเป็นทรัพย์สินมีมูลค่าสูงและยังเป็นภาระผูกพันระยะยาว กว่าจะผ่อนชำระครบตามกำหนดต้องใช้เวลานับสิบปี คอนโดผ่อนกี่ปี และควรผ่อนเดือนละเท่าไหร่ถึงเหมาะสมกับเงินเดือน? จึงกลายเป็นคำถามยอดนิยมของผู้ที่ต้องการซื้อคอนโดมิเนียม แต่ยังลังเลว่าเมื่อตัดสินใจซื้อแล้วจะผ่อนรายเดือนไหวหรือไม่ และต้องใช้ระยะเวลานานเพียงไหนจึงจะหมดภาระ โดยเฉพาะเด็กจบใหม่ที่ฐานเงินเดือนอาจไม่สูงมาก เพราะฉะนั้น ลองมาดูกันว่าคอนโดผ่อนกี่ปีและควรเลือกผ่อนชำระเดือนละเท่าไหร่จึงเหมาะสมกับเงินเดือน
การคำนวณยอดผ่อนคอนโดต่อเดือนสามารถทำได้ง่ายๆ โดยใช้หลักการที่ว่า ยอดผ่อนไม่ควรเกิน 40% ของรายได้ต่อเดือน เพื่อให้คุณยังมีสภาพคล่องทางการเงินสำหรับค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น หากคุณมีเงินเดือน 30,000 บาท ยอดผ่อนคอนโดของคุณไม่ควรเกิน 12,000 บาทต่อเดือน นอกจากนี้ สิ่งสำคัญที่ต้องเตรียมคือ เงินก้อนแรก ซึ่งประกอบด้วยเงินดาวน์ (ประมาณ 10% ของราคาคอนโด) และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ในวันโอนกรรมสิทธิ์
ตารางคำนวณเงินเดือนเท่านี้ กู้ซื้อคอนโดและผ่อนได้เท่าไหร่
ตารางด้านล่างนี้เป็นเพียงการประมาณการเบื้องต้น โดยคำนวณจากยอดผ่อน 40% ของรายได้ และระยะเวลาผ่อน 30 ปี
|
เงินเดือน (บาท) |
วงเงินกู้สูงสุด (โดยประมาณ) |
ยอดผ่อนต่อเดือน (โดยประมาณ) |
|
20,000 |
1.0 - 1.2 ล้านบาท |
7,000 - 8,000 บาท |
|
30,000 |
1.5 - 1.8 ล้านบาท |
10,500 - 12,000 บาท |
|
40,000 |
2.0 - 2.4 ล้านบาท |
14,000 - 16,000 บาท |
|
50,000 |
2.5 - 3.0 ล้านบาท |
17,500 - 20,000 บาท |
|
70,000 |
3.5 - 4.2 ล้านบาท |
24,500 - 28,000 บาท |
|
100,000 |
5.0 - 6.0 ล้านบาท |
35,000 - 40,000 บาท |
ซื้อคอนโดต้องเตรียมเงินก้อนแรกเท่าไหร่
นอกจากการผ่อนรายเดือนแล้ว การเตรียมเงินสดก้อนแรกสำหรับค่าใช้จ่ายเริ่มต้นก็เป็นสิ่งสำคัญ โดยแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลักๆ ดังนี้:
- เงินจองและเงินทำสัญญา: ประมาณ 10,000 - 50,000 บาท (ขึ้นอยู่กับโครงการ)
- เงินดาวน์: โดยทั่วไปอยู่ที่ 10% ของราคาคอนโด เช่น คอนโดราคา 2 ล้านบาท ต้องเตรียมเงินดาวน์ประมาณ 200,000 บาท ซึ่งสามารถผ่อนดาวน์กับโครงการได้
- ค่าใช้จ่ายวันโอนกรรมสิทธิ์: ควรเตรียมไว้ประมาณ 2-3% ของราคาคอนโด สำหรับเป็นค่าธรรมเนียมการโอน (1%), ค่าจดจำนอง (1%), ค่าอากรแสตมป์, และค่าใช้จ่ายอื่นๆ

คอนโดผ่อนกี่ปี และควรผ่อนเดือนละเท่าไหร่ จึงเหมาะสมกับเงินเดือน
ดอกเบี้ยยิ่งต่ำ ยิ่งผ่อนชำระหมดไว
สำหรับใครที่มีเงินก้อนใหญ่ แน่นอนว่าสามารถซื้อคอนโดฯ ได้อย่างไม่ต้องกังวลว่าคอนโดผ่อนกี่ปีและต้องผ่อนชำระเดือนละเท่าไหร่ เพราะเมื่อจ่ายเงินก้อนแล้วก็ไม่ต้องแบกรับค่าผ่อนชำระ ตรงกันข้ามกับผู้ไม่มีเงินก้อน แต่ต้องการเป็นเจ้าของคอนโดฯ การกู้เงินจากธนาคาร คือ วิธีที่คนส่วนใหญ่นิยม เพราะธนาคารจำนวนมากมีผลิตภัณฑ์เงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัย เนื่องจากเกือบทุกธนาคารมีผลิตภัณฑ์นี้ ก่อนตัดสินใจกู้เงินจึงต้องพิจารณาให้ดี โดยเฉพาะดอกเบี้ยเงินกู้ เพราะยิ่งดอกเบี้ยต่ำเท่าไหร่ จำนวนปีผ่อนชำระก็มีโอกาสลดลงนั่นเอง
วงเงินกู้ มีผลต่อจำนวนปีผ่อนชำระและยอดผ่อนชำระรายเดือน
การจะตอบคำถามว่าคอนโดผ่อนกี่ปีได้นั้น อันดับแรก คือ ต้องทราบราคาคอนโดฯ ที่คาดว่าจะกู้ผ่านเสียก่อน ซึ่งโดยปกติธนาคารจะปล่อยกู้ค่าคอนโดฯ ประมาณ 40-50 เท่าของรายได้ เช่น หากฐานเงินเดือน 20,000 บาท มีโอกาสได้รับการอนุมัติวงเงินกู้ 800,000 – 1,000,000 บาท เมื่อได้ตัวเลขที่คาดว่าจะกู้ผ่านแล้วก็ได้เวลาคำนวณค่าผ่อนชำระรายเดือน ซึ่งปกติแล้วธนาคารจะให้ผ่อนชำระไม่เกิน 40 เปอร์เซ็นต์ของรายได้ เพราะส่วนที่เหลือถูกกันไว้เป็นค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ของผู้กู้ เช่น ค่าใช้จ่ายส่วนตัว ค่างวดรถยนต์ และเงินออม เป็นต้น
คอนโดผ่อนกี่ปี และควรผ่อนเดือนละเท่าไหร่
หลังจากคำนวณตัวเลขเงินกู้ก็ถึงเวลาต้องพิจารณาว่าคอนโดผ่อนกี่ปี ซึ่งแน่นอนว่าตัวเลขที่คำนวณออกมานั้นจะไม่เกิน 40 เปอร์เซ็นต์ของรายได้ สำหรับจำนวนปีที่ต้องผ่อนชำระ ธนาคารจะปล่อยเงินกู้และให้ผ่อนชำระได้ไม่เกิน 30 ปี หรือจนกว่าผู้กู้อายุถึง 70 ปี ซึ่งถือเป็นจำนวนปีค่อนข้างสูง เพราะฉะนั้น สำหรับคำถามที่ว่าคอนโดผ่อนกี่ปีจึงเหมาะสมกับเงินเดือนจึงขึ้นอยู่กับความพร้อมของผู้กู้เป็นหลัก
หากฐานเงินเดือนไม่สูงมากและไม่อยากรับภาระต่อเดือนมากเกินไป แนะนำให้เลือกผ่อนชำระระยะยาวไว้ก่อน แม้จะต้องแบกรับค่าดอกเบี้ย แต่ถึงอย่างนั้น ในอนาคตหากมีเงินก้อนจากโบนัสหรือเงินพิเศษอื่น ๆ ก็สามารถนำมาโปะเงินต้นเพื่อลดจำนวนปีและลดอัตราดอกเบี้ย ดีกว่าการตัดสินใจเลือกผ่อนในจำนวนปีที่น้อยแล้วมีปัญหาสภาพคล่องทางการเงินตามมาภายหลัง เพราะอย่าลืมว่านอกจากค่าผ่อนชำระรายเดือนแล้ว การพักอาศัยในคอนโดฯ ยังมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าประกัน ค่าส่วนกลาง ฯลฯ ที่ต้องบริหารจัดการอย่างรัดกุม เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาด้านการเงิน และแม้การผ่อนคอนโดจะเป็นการผ่อนชำระระยะยาว แต่การปลดหนี้ก้อนนี้ได้เร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้ผู้กู้สบายเร็วขึ้นเท่านั้น เพราะยิ่งผ่อนหมดเร็ว ดอกเบี้ยก็จะน้อยลงนั่นเอง

3 เคล็ดลับผ่อนคอนโดให้หมดไวกว่าเดิม
- โปะเพิ่มเมื่อมีโอกาส: ทุกครั้งที่มีเงินก้อนพิเศษ เช่น โบนัสหรือคอมมิชชั่น การนำเงินไป "โปะ" หรือจ่ายเงินต้นเพิ่ม จะช่วยลดทั้งดอกเบี้ยและระยะเวลาผ่อนได้อย่างมหาศาล
- จ่ายเกินทุกเดือน: หากเป็นไปได้ ลองจ่ายค่างวดเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในทุกๆ เดือน เช่น ค่างวดปกติ 12,000 บาท ลองจ่ายเป็น 13,000 บาท เงินส่วนที่เกิน 1,000 บาทจะไปตัดเงินต้นโดยตรง
- รีไฟแนนซ์ (Refinance) ทุก 3 ปี: หลังจากผ่อนไปครบ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยมักจะปรับตัวเป็นแบบลอยตัว (MRR) ซึ่งสูงขึ้น การยื่นเรื่องขอรีไฟแนนซ์ไปยังธนาคารใหม่เพื่อรับโปรโมชั่นดอกเบี้ยต่ำ จะช่วยลดค่างวดและทำให้คุณประหยัดค่าดอกเบี้ยได้หลายแสนบาท
วางแผนผ่อนคอนโดอย่างมั่นใจกับ Grand Unity
การวางแผนการเงินคือหัวใจสำคัญของการซื้อคอนโด Grand Unity เข้าใจในความต้องการและพร้อมเป็นที่ปรึกษาให้คุณในทุกขั้นตอน เรามีโครงการคุณภาพหลากหลายทำเลที่มาพร้อมโปรโมชั่นที่น่าสนใจและพันธมิตรธนาคารชั้นนำที่พร้อมมอบข้อเสนอสินเชื่อที่ดีที่สุด
แกรนด์ ยูนิตี้ เรามุ่งมั่นที่จะตอบทุกเหตุผลของการใช้ชีวิต เพื่อให้คุณได้ #ใช้ชีวิตบนเหตุผลของคุณ.




