ขั้นตอนกู้เงินซื้อคอนโด ต้องเตรียมตัวอย่างไรให้ผ่านฉลุย!
11 Jul 2022กู้ซื้อคอนโดผ่านได้ไม่ยากหากเตรียมตัวถูกต้อง กระบวนการกู้หลักๆ มี 5 ขั้นตอน คือ การจองคอนโดและเซ็นสัญญาจอง เตรียมเอกสารประกอบการกู้ เปรียบเทียบธนาคาร ยื่นกู้ และรอผลอนุมัติพร้อมเลือกแพ็กเกจสินเชื่อ หลังจากนั้นโอนกรรมสิทธิ์พร้อมรับมอบห้อง ใช้เวลารวมประมาณ 1-2 เดือนตั้งแต่วันจองจนถึงวันโอนกรรมสิทธิ์ ก่อนยื่นกู้ควรเตรียมตัวดังนี้ คำนวณรายได้ให้ถูกต้องตามเกณฑ์ธนาคาร เช็คเครดิตสกอร์ให้ดี และเตรียมเงินดาวน์บางส่วนไว้รองรับการวางเงินดาวน์ตามที่ธนาคารกำหนด
|
ขั้นตอน |
รายละเอียด |
สิ่งที่ต้องเตรียม |
|
จองคอนโด |
เซ็นสัญญาจองและวางเงินจองกับโครงการ |
เงินจองตามแต่ละโครงการกำหนด |
|
เตรียมเอกสาร |
รวบรวมและจัดเตรียมเอกสารประกอบการกู้ |
เอกสารส่วนตัวและโครงการ |
|
เปรียบเทียบธนาคาร |
ศึกษาและเปรียบเทียบเงื่อนไขสินเชื่อต่างๆ |
ข้อมูลรายได้และเครดิตสกอร์ที่ดี |
|
ยื่นกู้ |
ยื่นขอสินเชื่อกับธนาคารที่เลือกไว้ |
เอกสารครบถ้วนและสัญญาซื้อขาย |
|
รอผลอนุมัติและเลือกแพ็กเกจ |
รอธนาคารพิจารณาและเลือกเงื่อนไขที่เหมาะสม |
ติดตามสถานะและเตรียมเบื้องต้นสำหรับโอนกรรมสิทธิ์ |
ซื้อคอนโดต้องดูอะไรบ้าง
ก่อนตัดสินใจซื้อคอนโด คุณควรพิจารณาและตรวจสอบ 5 เรื่องสำคัญ ดังนี้
- ทำเลและการเดินทาง
- ตรวจสอบความเหมาะสมของทำเล ใกล้ที่ทำงาน ใกล้รถไฟฟ้า และแหล่งสิ่งอำนวยความสะดวก
- ผู้พัฒนาโครงการ
- ประวัติและความน่าเชื่อถือของผู้พัฒนาโครงการ
- ราคาและค่าใช้จ่ายรายเดือน
- รวมถึงค่าส่วนกลาง ค่าน้ำ ค่าไฟ และกองทุนซ่อมแซม
- สิ่งอำนวยความสะดวก
- ดูว่ามีสระว่ายน้ำ ฟิตเนส ที่จอดรถ เพียงพอ และระบบรักษาความปลอดภัย
- ขนาดห้องและแปลนผัง
- ตรวจสอบห้องจริงและแปลนให้เหมาะสมกับการใช้งาน
การพักอาศัยในคอนโดมิเนียมยังคงเป็นตัวเลือกยอดนิยม โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ใช้ชีวิตในเมือง เพราะโครงการคอนโดฯ ส่วนใหญ่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และตั้งอยู่บนทำเลที่เดินทางสะดวก นั่นทำให้หลายคนใฝ่ฝันอยากเป็นเจ้าของคอนโดฯ สักห้อง แต่เพราะคอนโดฯ เป็นอสังหาริมทรัพย์มูลค่าสูง ก่อนตัดสินใจซื้อ นอกจากจะต้องเลือกโครงการและทำเลให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์แล้ว ยังต้องเตรียมความพร้อมในเรื่องของ การยื่นกู้คอนโด ให้รอบคอบ เพื่อให้ผ่านขั้นตอนทางการเงินได้อย่างราบรื่น
อยากได้คอนโด เริ่มต้นยังไงให้ง่ายที่สุด
หากคุณกำลังคิดจะซื้อคอนโดครั้งแรก การวางแผนที่ดีจะช่วยให้การตัดสินใจง่ายและลดความเสี่ยงลงได้มาก สามารถเริ่มต้นง่ายๆ ด้วย 4 ขั้นตอนดังนี้
-
กำหนดงบประมาณและความสามารถในการผ่อน
ก่อนจะเลือกโครงการ ต้องรู้ก่อนว่าเราซื้อคอนโดราคาเท่าไหร่ได้ เริ่มจากการคำนวณรายได้และรายจ่ายจริง หักค่าใช้จ่ายประจำและเงินออมออกไป ดูว่าเหลือเท่าไหร่ที่สามารถผ่อนได้โดยไม่ลำบาก ธนาคารมักให้กู้ได้ไม่เกิน 30-40 เปอร์เซ็นต์ของรายได้ต่อเดือน เช่น ถ้ารายได้ 30,000 บาท คุณจะสามารถผ่อนคอนโดได้ประมาณ 9,000-12,000 บาทต่อเดือน นอกจากนี้ควรมีเงินเก็บสำรองอย่างน้อย 10-20 เปอร์เซ็นต์ของราคาคอนโดสำหรับค่าจอง ค่าทำสัญญา และค่าใช้จ่ายวันโอน
-
เลือกทำเลที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์
ทำเลเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการเลือกซื้อคอนโด ควรเลือกทำเลที่ใกล้ที่ทำงานหรือใกล้รถไฟฟ้าเพื่อช่วยประหยัดเวลาและค่าเดินทาง นอกจากนี้ควรพิจารณาถึงแหล่งอำนวยความสะดวกรอบโครงการ เช่น ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร โรงพยาบาล หรือสวนสาธารณะ ทำเลที่ดีไม่เพียงแต่ช่วยให้ชีวิตประจำวันสะดวกสบาย แต่ยังมีมูลค่าเพิ่มและสามารถปล่อยเช่าหรือขายต่อได้ง่ายในอนาคต
-
เปรียบเทียบโครงการที่สนใจ
เมื่อได้ทำเลที่ต้องการแล้ว ควรเข้าไปเยี่ยมชมโครงการเพื่อเปรียบเทียบข้อมูลในหลายๆ ด้าน เช่น ราคาต่อตารางเมตร ขนาดห้องและแปลนผัง สิ่งอำนวยความสะดวก ส่วนกลางของโครงการ ชื่อเสียงของผู้พัฒนา และโปรโมชั่นในช่วงนั้น ใช้เวลาในการพิจารณาอย่างรอบคอบและเลือกโครงการที่คุ้มค่าและตรงกับความต้องการของคุณมากที่สุด
-
ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจ
การซื้อคอนโดเป็นการลงทุนก้อนใหญ่ จึงควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญในแต่ละด้านก่อนตัดสินใจ เริ่มจากการปรึกษาเจ้าหน้าที่ขายโครงการเพื่อขอข้อมูลโปรโมชั่นและแผนผ่อนชำระ Grand Unity เรามีทีมที่ปรึกษาการขายมืออาชีพที่พร้อมจะช่วยให้การตัดสินใจครั้งสำคัญนี้เป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ จากนั้นปรึกษาเจ้าหน้าที่ธนาคารเพื่อเช็คสิทธิ์การกู้และเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ย

เตรียมตัวกู้เงินซื้อคอนโดอย่างไรบ้าง
ต้องยอมรับว่าการกู้เงินซื้อคอนโดถือเป็นวิธีหนึ่งที่ทำให้เป็นเจ้าของคอนโดฯ ในฝันได้ง่ายยยิ่งขึ้น เนื่องจากไม่จำเป็นต้องพึ่งเงินก้อนใหญ่ แต่ก่อนยื่นเอกสาร ควรเตรียมตัวให้พร้อม เพื่อให้การกู้เงินซื้อผ่านฉลุยและไม่ต้องรอนาน
- พิจารณารายรับและรายจ่าย
เรียกได้ว่าเป็นสิ่งแรกที่ควรพิจารณาอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจกู้เงินซื้อคอนโด เพราะคอนโดมิเนียมเป็นอสังหาริมทรัพย์ราคาสูง ยิ่งเลือกโครงการบนทำเลเดินทางสะดวกมากเท่าไหร่ยิ่งมีโอกาสให้ต้องควักเงินในกระเป๋ามากขึ้นเท่านั้น ก่อนกู้เงินซื้อคอนโดจึงต้องพิจารณาว่าตนเองมีรายได้เดือนละเท่าไหร่และมีรายจ่ายทางใดบ้าง เพื่อให้รู้ว่าแต่ละเดือนจะสามารถผ่อนชำระค่างวดได้เดือนละเท่าไหร่ นอกจากนี้ ยังควรมีเงินเก็บบางส่วน เพราะบางธนาคารปล่อยกู้เพียง 70-90 เปอร์เซ็นต์ของราคาประเมินเท่านั้น ค่าใช้จ่ายส่วนต่างที่เหลือจึงอาจจำเป็นต้องจ่ายเอง
- เคลียร์ภาระหนี้ เพื่อให้อนุมัติง่ายขึ้น
เมื่อวางแผนกู้เงินซื้อคอนโด สิ่งแรกที่ต้องทำ คือ จัดการหนี้สินต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น หนี้จากการผ่อนค่างวดรถ หนี้บัตรเครดิต หนี้บัตรกดเงินสด หนี้สินเชื่อส่วนบุคคล ฯลฯ เพราะแม้จะมีเงินเดือนสูงมากเท่าไหร่ แต่หากภาระหนี้สูงกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ของรายได้ โอกาสอนุมัติกู้เงินซื้อคอนโดจะยิ่งน้อยลง โดยเฉพาะหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อย่างหนี้บัตรเครดิตหรือบัตรกดเงินสด เพราะฉะนั้นก่อนยื่นเอกสารกู้เงิน ควรกำจัดภาระหนี้เหล่านี้ให้เหลือน้อยที่สุดเสียก่อน
- รักษาประวัติชำระหนี้
เชื่อว่าหลายคนน่าจะคุ้นเคยกับคำว่า “เครดิตรบูโร” เป็นอย่างดี และไม่ว่าใครหากต้องการกู้เงินซื้อคอนโดจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องถูกตรวจสอบเครดิตบูโรหรือตรวจสอบประวัติการชำระหนี้ โดยสถาบันการเงินจะตรวจสอบประวัติการชำระหนี้ย้อนหลัง 2-3 ปี เพื่อตรวจสอบว่าผู้กู้มีประวัติการชำระหนี้เป็นอย่างไรบ้าง และปัจจุบันมีภาระหนี้จากอะไรบ้าง ซึ่งแน่นอนว่าหากมีประวัติการชำระหนี้ตรงเวลาและไม่ผิดนัดชำระบ่อย ๆ ยิ่งเพิ่มความมั่นใจให้แก่สถาบันการเงิน โอกาสอนุมัติกู้เงินซื้อคอนโดจะสูงขึ้นอย่างแน่นอน

5 ขั้นตอนกู้ซื้อคอนโดให้ผ่านฉลุย
เมื่อเตรียมตัวพร้อมแล้วสำหรับการกู้เงินซื้อคอนโด ลำดับต่อไปคือการทำความเข้าใจขั้นตอนกู้ซื้อคอนโดกับสถาบันการเงิน ที่รับรองว่าหากเตรียมตัวมาเป็นอย่างดีแล้ว การกู้เงินซื้อคอนโดจะผ่านฉลุยแน่นอน
1. จองและเซ็นสัญญาซื้อขายคอนโดฯ
ก่อนเริ่มการกู้ซื้อคอนโด สามารถเริ่มต้นด้วยการยื่นความประสงค์จองคอนโดฯ ซึ่งขั้นตอนนี้จะมีค่าใช้จ่ายตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักแสน จากนั้นประมาณ 1-2 สัปดาห์ จะมีการทำสัญญาจะซื้อจะขาย ซึ่งในสัญญาจะระบุเลขที่ห้อง ชั้น ราคาห้อง และเงื่อนไขอื่น ๆ ซึ่งควรตรวจทานเงื่อนไขให้ละเอียด เพื่อลดปัญหาที่อาจตามมาในภายหลัง
2. เปรียบเทียบสิทธิประโยชน์แต่ละสถาบันการเงิน
ก่อนตัดสินใจซื้อคอนโดฯ นอกจากต้องพิจารณาตัวโครงการและทำเลที่ตั้งแล้ว ก่อนยื่นกู้เงินก็จำเป็นต้องเปรียบเทียบและพิจารณาสิทธิประโยชน์ของแต่ละสถาบันการเงินเช่นกัน เพื่อให้การกู้เงินซื้อคอนโดครั้งนี้ได้รับประโยชน์มากที่สุด สิ่งที่ควรพิจารณา คือ อัตราดอกเบี้ยทั้งแบบระยะสั้นและแบบระยะยาว ระยะเวลาในการผ่อนชำระ และวงเงินกู้ โดยควรเปรียบเทียบ 3-4 สถาบันการเงิน เพื่อให้ได้ข้อเสนอที่ตอบโจทย์ความต้องการและคุ้มค่ามากที่สุด
3. เตรียมเอกสารกู้เงินซื้อคอนโดให้พร้อม
เมื่อเปรียบเทียบสิทธิประโยชน์ของแต่ละสถาบันการเงินเรียบร้อยแล้ว การกู้ซื้อคอนโดขั้นตอนต่อไป คือ การเตรียมเอกสารเพื่อยื่นกู้ โดยเอกสารมีดังนี้:
-
เอกสารประจำตัว ได้แก่ บัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน ใบสำคัญการสมรส
-
เอกสารแสดงรายได้ ได้แก่ สำเนาบัญชีธนาคารย้อนหลัง สลิปเงินเดือน หนังสือการหักภาษี ณ ที่จ่าย
ความได้เปรียบของการเตรียมเอกสารกู้เงินซื้อคอนโดให้พร้อม คือ จะช่วยให้ทราบผลการอนุมัติรวดเร็วขึ้น เพราะทางสถาบันการเงินไม่ต้องติดต่อเพื่อขอเอกสารเพิ่มเติม
4. ยื่นเอกสารพร้อมรอฟังผล
หลังจากเตรียมเอกสารกู้เงินซื้อคอนโดเรียบร้อยแล้ว การกู้ซื้อคอนโดขั้นตอนต่อไป คือ การยื่นเอกสารเหล่านั้นแก่สถาบันการเงิน ซึ่งระยะเวลาการพิจารณาขึ้นอยู่กับสถาบันการเงินนั้นๆ บางสถาบันการเงินใช้ระยะเวลาเพียง 7-10 วัน ในขณะเดียวกันสถาบันการเงินบางแห่งใช้เวลาพิจารณาประมาณ 20-30 วัน ซึ่งหากวงเงินกู้ได้ถูกอนุมัติเรียบร้อยแล้วและผู้กู้พอใจกับวงเงินกู้นั้นก็สามารถตอบตกลงเพื่อทำสัญญาเงินกู้ได้ทันที
5. โอนกรรมสิทธิ์และจดจำนอง
หลังจากตกลงทำสัญญากู้เงินซื้อคอนโดแล้ว ขั้นตอนสุดท้ายคือการโอนกรรมสิทธิ์ โดยขั้นตอนนี้ทั้งผู้ซื้อ ผู้ขาย รวมถึงตัวแทนสถาบันการเงินจะต้องเดินทางไปทำเรื่องโอนกรรมสิทธิ์ พร้อมจดจำนองที่สำนักงานที่ดิน ซึ่งหากเสร็จสิ้นขั้นตอนนี้ก็สามารถเข้าอยู่ได้ทันที สำหรับโฉนดฉบับจริงทางตัวแทนสถาบันการเงินจะเป็นผู้เก็บไว้ หากผู้กู้ผ่อนชำระค่างวดครบเมื่อไหร่จึงจะได้รับโฉนดตัวจริงไปครอบครองนั่นเอง
ยื่นกู้คอนโดต้องเตรียมอะไรบ้าง?
ก่อนจะเริ่มกระบวนการยื่นกู้คอนโดกับธนาคาร สิ่งสำคัญอันดับแรกคือการเตรียมเอกสารให้ครบถ้วนและถูกต้อง ซึ่งจะช่วยลดปัญหาและเพิ่มโอกาสให้สินเชื่อได้รับการอนุมัติได้ง่ายขึ้น โดยทั่วไปเอกสารที่จำเป็นจะประกอบด้วย:
- บัตรประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้าน
- เอกสารแสดงรายได้ เช่น สลิปเงินเดือนย้อนหลัง 3–6 เดือน และหนังสือรับรองเงินเดือน
- สำเนาบัญชีธนาคารย้อนหลังอย่างน้อย 6 เดือน
- เอกสารแสดงทรัพย์สินหรือหนี้สินอื่น ๆ (ถ้ามี)
- เอกสารแสดงการจองหรือทำสัญญาจะซื้อจะขายคอนโด
สำหรับผู้ประกอบอาชีพอิสระ เช่น ฟรีแลนซ์ เจ้าของกิจการ หรือกลุ่มอาชีพพิเศษ อาจต้องเตรียมเอกสารเพิ่มเติม เช่น หนังสือรับรองการจดทะเบียนพาณิชย์ หรือใบแจ้งภาษีย้อนหลัง เพื่อแสดงความสามารถในการชำระหนี้อย่างชัดเจน
การเตรียมเอกสารให้ครบก่อนยื่นกู้คอนโด ไม่เพียงช่วยให้ธนาคารพิจารณาได้เร็วขึ้น แต่ยังเป็นการแสดงถึงความพร้อมและความน่าเชื่อถือของผู้กู้ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการอนุมัติสินเชื่อ
แกรนด์ ยูนิตี้ เรามุ่งมั่นที่จะตอบทุกเหตุผลของการใช้ชีวิต เพื่อให้คุณได้ #ใช้ชีวิตบนเหตุผลของคุณ.




